ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานและนายกสภาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ พระราชทานพระโอวาทแก่นักศึกษาใหม่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๖
.
วันจันทร์ที่ ๔ กันยายน ๒๕๖๖ เวลา ๑๔.๑๗ น. ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานและนายกสภาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เสด็จพระดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งไปยังห้องประชุมมิราเคิล แกรนด์ บอลรูม โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ในการพระราชทานพระโอวาทแก่นักศึกษาใหม่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๖ โดยมีคุณหญิงลักษณาจันทร เลาหพันธุ์ รักษาการรองเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์รัชตะ รัชตะนาวิน รักษาการรองเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ด้านการศึกษา พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร บุคลากรและนักศึกษาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เฝ้ารับเสด็จฯ การนี้ พระราชทานพระวโรกาสให้ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์รัชตะ รัชตะนาวิน รักษาการรองเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ด้านการศึกษา เข้าเฝ้ากราบทูลถวายรายงาน และขอพระราชทานพระวโรกาสเบิกผู้แทนนักศึกษาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ทุกหลักสูตรเฝ้าถวายดอกไม้ธูปเทียนแพ จำนวน ๘ คู่ และกล่าวคำปฏิญาณตนตามลำดับ ทั้งนี้ ในปีการศึกษา ๒๕๖๖ นี้ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ มีนักศึกษาใหม่ จำนวนทั้งสิ้น ๕๐๑ คน ประกอบด้วย นักศึกษาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน จำนวน ๘๓ คน นักศึกษาวิทยาลัยพยาบาลศาสตร์อัครราชกุมารี จำนวน ๒๑๗ คน นักศึกษาคณะเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์สุขภาพ วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ จำนวน ๑๖๔ คน นักศึกษาโครงการสนับสนุนทุนการศึกษาระดับปริญญาตรีแก่เยาวชนลาว จำนวน ๑๘ คน และ นักศึกษาสถาบันบัณฑิตศึกษาจุฬาภรณ์ จำนวน ๑๙ คน ทั้งนี้ ทุกหลักสูตรที่จัดการเรียนการสอนเป็นหลักสูตรที่มีความสำคัญตอบสนองต่อความต้องการของประเทศ โดยเฉพาะสาขาวิชาที่ยังขาดแคลนและมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อสังคมไทยและนานาชาติ ทั้งด้านการแพทย์ การสาธารณสุข วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี วิทยาศาสตร์สุขภาพ การจัดการเรียนการสอนของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ยังได้บูรณาการงานวิจัย งานบริการวิชาการสู่สังคม และการมุ่งเน้นเรื่องความเป็นไทย ศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนการเทิดทูนสถาบันหลักของแผ่นดินผสมผสานในการจัดการเรียนการสอน เพื่อมุ่งให้เกิดผลลัพธ์ของบัณฑิตในทุกมิติ ที่สอดคล้องกับเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์
.
โอกาสนี้ ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี พระราชทานพระโอวาทแก่นักศึกษาใหม่ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ใจความตอนหนึ่งว่า “…ข้าพเจ้าขอน้อมนำพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เรื่องของการศึกษาที่พระราชทานไว้ว่า “การศึกษาหาความรู้สำคัญตรงที่ว่า ต้องศึกษาเพื่อให้เกิดฉลาดรู้ คือ รู้แล้วสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง ๆ โดยไม่เป็นพิษเป็นโทษ การศึกษาเพื่อความฉลาดรู้ มีข้อปฏิบัติที่น่าจะยึดเป็นหลักอย่างน้อยสองประการ ประการแรก เมื่อจะศึกษาสิ่งใดเรื่องใดให้รู้จริง ควรจะศึกษาให้ตลอด ครบถ้วนทุกแง่มุม ไม่ใช่เรียนรู้แต่เพียงบางส่วนบางตอน หรือเพ่งเล็งเฉพาะแต่เพียงบางแง่บางมุม อีกประการหนึ่ง ซึ่งจะต้องปฏิบัติประกอบพร้อมกันไปด้วยเสมอ คือ ต้องพิจารณาศึกษาเรื่องนั้น ๆ ด้วยความคิดจิตใจที่ตั้งมั่นเป็นปกติ และเที่ยงตรงเป็นกลาง” ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกท่านจะใช้เวลาและโอกาสอันมีค่านี้ สั่งสมความรู้ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญอย่างฉลาดและมีสติ ประสบความสำเร็จในการศึกษาตามที่มุ่งหวัง และเป็นบัณฑิตที่มุ่งมั่นทำความดี มีเมตตาและสามัคคี เป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีค่า สร้างความมั่นคงให้แก่ตนเอง ครอบครัวและประเทศชาติต่อไป ”
ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ ๑๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๙ จากพระปณิธานใน ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานและนายกสภาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เพื่อถวายราชสดุดีแด่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในการสืบสานตามรอยเบื้องพระยุคลบาทที่ทรงมุ่งหวังให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดี และมีคุณภาพชีวิตที่ได้มาตรฐาน โดยมีพระปณิธานให้ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เป็นศูนย์กลางการเรียนการสอน และการวิจัยขั้นสูงที่จะสร้างบัณฑิตและพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ วิทยาศาสตร์ สาธารณสุข และสิ่งแวดล้อมที่มีจิตในการทำประโยชน์ให้ผู้อื่นก่อนคิดถึงประโยชน์ของตัวเอง พร้อมบริการสังคมด้วยความรู้ความชำนาญ คุณธรรมจริยธรรม จิตอาสา ความมุ่งมั่น และด้วยความเป็นเลิศในวิชาชีพเพื่อทุกชีวิตในสังคม อีกทั้งเป็นสถาบันที่ให้บริการทางการแพทย์ด้วยมาตรฐานสากลแก่ประชาชนอย่างไม่หวังผลกำไร โดยเฉพาะผู้ที่ยากไร้และด้อยโอกาส เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยทั้งประเทศ
.